รอบรู้การเกิดปัสสาวะขุ่น อาการผิดปกติที่อาจเกิดในระบบทางเดินปัสสาวะ

beauty

หนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินปัสสาวะที่ถือเป็นปัญหาที่ควรใส่ใจให้มากๆ ก็คือ ปัสสาวะขุ่น ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ วันนี้เราจะชวนให้ทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ ปัจจัยเสี่ยง การรักษา และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัสสาวะขุ่นกันค่ะ จะมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้างนั้นไปติดตาม รัตตินันท์ คลินิก อ่านพร้อม ๆ กันเลย

ปัสสาวะขุ่นคืออะไร

ปัสสาวะขุ่น คือ อาการที่สีของปัสสาวะมีลักษณะเป็นขุ่น เป็นตะกอน หรือมีฟองหนา ซึ่งสีของปัสสาวะจะไม่เป็นสีใสหรือสีเหลืองอ่อนเหมือนปกติ ทั้งนี้อาจเกิดได้จากปัจจัยภายนอกที่มีการกระทบต่อเม็ดสีที่อยู่ในปัสสาวะ เช่น เกิดจากการใช้ยาหรือการกินอาหารบางชนิด อีกทั้งอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น โปรตีนหรือผลึกสารเจือปนอยู่ในปัสสาวะ การติดเชื้อภายในอวัยวะต่างๆ ในระบบทางเดินปัสสาวะ และนั่นอาจส่งผลให้มีเลือดและหนองเจือปนอยู่ในปัสสาวะได้ แต่ก็ยังจัดเป็นสาเหตุที่ไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะขาดน้ำ หรือร่างกายเจ็บป่วย เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัสสาวะขุ่น

ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิดปัสสาวะขุ่นมีอยู่มากมายดังนี้

1.มีสารฟอสเฟตตกผลึกในปัสสาวะมากเกินไป ซึ่งจะกระทบต่อความเป็นกรดและด่างของปัสสาวะ

2.มีกรดยูริกอยู่ในปัสสาวะสูงเกินไป ซึ่งเกิดจากการกินอาหารที่มี Purine สูง

3.ปัสสาวะมีไขมัน

4.ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำเล็กน้อย

5.โปรตีนไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ

6.มีสารออกซาเลตในปัสสาวะสูงมากเกินไป

7.ปัสสาวะปนเปื้อนเมือกจากช่องคลอด หรือจากเซลล์เยื่อบุผิว

8.มีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ

9.ปัสสาวะเป็นหนองจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

10.เป็นนิ่วในไต

11.ระบบท่อปัสสาวะกับท่อน้ำเหลืองของลำไส้เล็กเกิดความผิดปกติ ส่งผลให้มีน้ำเหลืองปนในปัสสาวะ

12.เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบ

13.มีตกขาว

14.เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างเช่น หนองใน

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัสสาวะขุ่น

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัสสาวะขุ่น โดยส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อระดับสารเคมีต่างๆ หรือระบบต่างๆ ภายในร่างกาย จนนำไปสู่อาการปัสสาวะขุ่น ดังนี้

1.อาหารบางชนิดที่ทำให้สีของปัสสาวะเปลี่ยน เช่น บีทรูทหรือเบอร์รี

2.ยาที่ใช้รักษาโรคบางชนิดมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนสีของปัสสาวะ ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย

3.การออกกำลังกายหรือการใช้แรงงานหนักเกินไป ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บหรือการเปลี่ยนแปลงต่อระบบปัสสาวะ

4.อายุที่มากขึ้น ซึ่งบางกรณีผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มป่วยด้วยโรคต่างๆ โดยเป็นที่มาของการเกิดปัสสาวะขุ่นได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นโรคไตหรือโรคเบาหวานก็ตาม

5.เพศหญิง ซึ่งมักจะป่วยด้วยการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ รวมทั้งอาจมีอาการตกขาวหรือติดเชื้อในช่องคลอด ส่วนเพศชายมักจะป่วยด้วยโรคนิ่วในไตหรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

6.หากบุคคลในครอบครัวที่เกี่ยวโยงทางสายเลือดมีอาการป่วยเป็นโรคไตหรือโรคนิ่วในไต จะมีโอกาสเกิดปัสสาวะขุ่นได้ง่าย

สัญญาณต่างๆ ที่ควรพบแพทย์

สัญญาณต่างๆ ที่ควรสังเกต ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงอาการปัสสาวะขุ่นที่จำเป็นต้องพบแพทย์มีดังนี้

1.ปัสสาวะมีเลือดปนและมีอาการเจ็บปวดในขณะที่กำลังปัสสาวะ ซึ่งนั่นอาจเป็นสัญญาณของนิ่วในไต หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะก็ได้

2.ปัสสาวะมีเลือดปน แต่ไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ ร่วมด้วย ซึ่งนั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็ง

3.สีของปัสสาวะมีสีเข้มหรือสีส้ม ดวงตาและผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และอุจจาระมีสีซีด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะตับทำงานผิดปกติ

4.สีของปัสสาวะขุ่นหรืออาจมีเลือดปน รวมทั้งมีกลิ่นเหม็น มีไข้ หนาวสั่น และปวดเอว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

5.มีพฤติกรรมปัสสาวะบ่อยแต่ปัสสาวะได้ทีละน้อยเท่านั้น บางครั้งอาจปัสสาวะแบบขัด หรือมีอาการปวดปัสสาวะขึ้นมาแบบกะทันหัน

การรักษาปัสสาวะขุ่น

ในกรณีที่มีอาการปัสสาวะขุ่น แพทย์จะทำการรักษาอาการที่เกิดขึ้นตามสาเหตุที่แตกต่างกัน เช่น

1.ภาวะขาดน้ำ

อาการปัสสาวะขุ่นที่เกิดจากภาวะขาดน้ำ จะดูที่ความรุนแรงและอายุของผู้ป่วย โดยมักรักษาด้วยการให้ดื่มน้ำปริมาณมากๆ ให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารละลายอิเล็กโตรไลต์หรือคาร์โบไฮเดรต ให้ดื่มผงละลายเกลือแร่ งดให้ดื่มน้ำอัดลมหากผู้ป่วยมีอาการท้องร่วง และรักษาด้วยน้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำรุนแรง

2.ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

อาการปัสสาวะขุ่นที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ แพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ ซึ่งจะมีทั้งแบบกินและแบบฉีด โดยจะใช้ยาตามความเหมาะสมกับสภาพร่างกายและลักษณะอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก

3.นิ่วในไต

หากอาการปัสสาวะขุ่นที่เกิดขึ้น เกิดจากการเป็นนิ่วในไต แพทย์จะทำการรักษาตามชนิดและขนาดของนิ่วที่เกิดขึ้น

วิธีป้องกันการเกิดปัสสาวะขุ่น

สำหรับวิธีป้องกันการเกิดปัสสาวะขุ่น หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระบบทางเดินปัสสาวะมีดังนี้

1.ดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำ

2.หมั่นดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้สด และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โซดา น้ำอัดลม หรือคาเฟอีน

3.กินอาหารที่มีเส้นใยสูง

4.ไม่กลั้นปัสสาวะและควรพยายามปัสสาวะบ่อยๆ

5.ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนและเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการอับชื้น

จะเห็นได้ว่าการเกิดปัสสาวะขุ่นนั้น มีวิธีการป้องกันที่น่าสนใจและสามารถนำมาปฏิบัติใช้กันได้ง่าย โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการกินอาหารที่มีเส้นใยสูง การดื่มน้ำให้มากๆ การไม่กลั้นปัสสาวะ รวมทั้งการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางชนิดที่อาจทำปฏิกิริยาต่อกระเพาะปัสสาวะ ก็ล้วนช่วยให้ห่างไกลจากอาการปัสสาวะขุ่นได้ทั้งสิ้น

Next Post

ตกขาวเกิดขึ้นจากอะไร ลักษณะแบบไหนที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม?

โดยธรรมชาติแล้ว อาการตกขาวถือว่าเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเมือกสีขาวหรือสีขุ่น ถูกสร้างขึ้นที่ส่วนของปากมดลูกหรือช่องคลอด ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเจอกับภาวะดังกล่าวได้ในช่วงก่อนมีรอบเดือน เป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย
ตกขาวเกิดจากอะไร

Subscribe US Now