เลือดเป็นกรด (Acidosis) เป็นภาวะที่เกิดความผิดปกติของเลือดหรือของเหลวในร่างกายที่ทำให้มีความเป็นกรดสูง โดยในทางการแพทย์จะมีการยึดเกณฑ์ค่า pH ในเลือดที่วัดได้ไม่ต่ำกว่า 7.35 ลงมาจึงจัดว่าร่างกายมีภาวะเลือดเป็นกรด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ และยังเป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นได้
เลือดเป็นกรดเกิดจากอะไร?
ภาวะเลือดเป็นกรดมักจะเกิดจากสาเหตุต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดกรดในร่างกายมีปริมาณมากหรือสูญเสียความเป็นด่างไปรวมไปถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายใน เช่น ปอด ไต ระบบเผาผลาญ ระบบหายใจ ซึ่งจะมีสาเหตุของการเกิดโรค โดยจะแบ่งออกได้ดังนี้
อาการเลือดเป็นกรดเป็นอย่างไรบ้าง?
ภาวะเลือดเป็นกรดจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและการชีวิตชีวิตในหลายๆ ด้าน และผู้ป่วยแต่ละรายจะมีอาการที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดเลือดเป็นกรด โดยผู้ป่วยจะมีอาการในแต่ละภาวะดังนี้
ภาวะเลือดเป็นกรดจากระบบหายใจ
- ร่างกายอ่อนเพลียเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และมีอาการเซื่องซึม
- ปวดศีรษะ รู้สึกสับสน บางรายอาจมีอาการรุนแรงเกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวซึ่งอาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้
ภาวะเลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญ
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- หายใจตื้น ถี่ เหนื่อยง่าย และร่างกายมีความอ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะ สับสน อาเจียน รู้สึกเบื่ออาหาร
- ท้องโต ตัวเหลือง มีลักษณะคล้ายกับอาการดีซ่าน
- หากเกิดจากโรคเบาหวานผู้ป่วยที่มีอาการนี้จะมีลมหายใจที่มีกลิ่นคล้ายกับผลไม้
ภาวะเลือดเป็นกรดจากระบบหายใจ
ภาวะนี้จะเกิดขึ้นและพบได้บ่อยจากผู้มีปัญหาเกี่ยวกับปอด เมื่อปอดไม่สามารถขจัดการ์ดคาร์บอนไดออกไซด์ออกทางการหายใจได้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะทำให้มีการเกิดก๊าซในร่างกายสูงขึ้น โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการก็มีดังนี้
- โรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง
- การบาดเจ็บบริเวณหน้าอก
- ภาวะโรคอ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยหลายคนหายใจลำบากมากยิ่งขึ้น
- การใช้ยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอย่างไม่เหมาะสมทำให้การทำงานในระบบการหายใจลดลง
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
- โครงสร้างของหน้าอกผิดรูป
- กล้ามเนื้อหน้าอกที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจไม่แข็งแรง
ภาวะเลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญ
ภาวะนี้จะเกิดขึ้น เมื่อร่างกายไม่สามารถขจัดของเสียออกในปริมาณที่เหมาะสมได้จึงทำให้มีความเป็นกรดเพิ่มมากขึ้น โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้มักมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้
1.การคั่งของสารคีโตซิส
พบได้ในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมโรคเบาหวานได้เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน
2.ภาวะเลือดเป็นกรดร่วมกับคลอไรด์ในเลือดสูง
เป็นผลมาจากการสูญเสียโซเดียมไบคาร์บอเนตในร่างกายที่ถูกขับออกมามากจนเกินไป โดยอาจจะเกิดจากอาการท้องเสียที่รุนแรง
3.ภาวะเลือดเป็นกรดจากกรดแลคติกในเลือดสูง
เกิดขึ้นเมื่อกรดและติดสะสมอยู่ในร่างกายในปริมาณที่มากเกินไป โดยมีสาเหตุมาจากการติดสุราเรื้อรัง ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โรคมะเร็ง การออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน การติดเชื้อในกระแสเลือดและยังมีโรคอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกรดแลคติกในเลือดสูง
4.สาเหตุอื่นๆ
เช่น อาการอาเจียน ส่งผลให้มีภาวะของการขาดน้ำที่รุนแรงทำให้การทำงานของไตเกิดความผิดปกติ และอาการที่เกิดจากสารเคมีบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
วิธีรักษาเลือดเป็นกรด
ภาวะเลือดเป็นกรดจะรักษาได้ก็ต่อเมื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากสิ่งใด โดยจะมีการวัดค่า pH ของความเป็นกรดและเป็นด่าง จากนั้นในทางการแพทย์จะทำการปรับให้ค่า pH กลับมาอยู่ในระดับปกติ โดยอาจจะใช้การใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้ดีขึ้น และถ้าหากการเกิดเลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญในทางการแพทย์ก็จะมีการให้รับประทานโซเดียมคาร์บอเนต และให้น้ำเกลือควบคู่กันไปรวมถึงการให้ยาปฏิชีวนะ โดยในทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของผู้ป่วย
วิธีป้องกันการเกิดเลือดเป็นกรด
การป้องกันภาวะเลือดเป็นกรดเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวของท่านเองหรือบุคคลรอบข้างควรมีวิธีการป้องกันดังนี้
- รับประทานยาระงับประสาทหรือยานอนหลับ โดยควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะสารเคมีจากการสูบบุหรี่ก็จะทำให้เกิดเลือดเป็นกรดได้
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคอ้วน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันเพื่อช่วยลดการขาดน้ำในร่างกาย
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และควรติดตามเข้ารักษาอาการอย่างสม่ำเสมอ
- ควรรับประทานยาทุกชนิดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
เลือดเป็นกรดเป็นภาวะที่มีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถ้าหากมีการรักษาที่ไม่ถูกวิธี และหากเข้ารับการรักษาช้าเกินไป และจากบทความที่เราเขียนมานี้จะเป็นวิธีที่จะช่วยให้ทุกท่านได้รู้ถึงอาการข้างต้นของการเกิดภาวะเลือดเป็นกรด และยังมีวิธีที่ช่วยป้องกันให้เกิดภาวะนี้ด้วย