แผลรถล้ม หนึ่งในอุบัติเหตุที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นแน่นอน ทว่าต้องยอมรับสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศและทุกช่วงวัย หากอาการไม่หนักหนาสาหัส การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี จะช่วยทุเลาอาการได้มากทีเดียว แต่ในตำราเรียนแทบไม่ได้สอนมาเลย ดังนั้นที่นี่มาเรียนรู้สาระดี ๆ เพื่อดูแลตนเองและคนใกล้ชิด
หลักการปฐมพยาบาลแผลรถล้มเบื้องต้น
การปฐมพยาบาลแผลรถล้ม ดูดไขมัน ลักษณะแผลที่ฟกช้ำ ไม่ถึงกับเลือดออก หลักการบรรเทาอาการฟกช้ำไม่ยาก ดังนี้
- หลังจากรถล้มแล้ว ภายใน 24 ชั่วโมง ต้องทำการประคบเย็น ซึ่งการประคบต้องทำครั้งหนึ่งนาน 15-30 นาที และกดเบา ๆ ขณะประคบ อุปกรณ์ คือ ใช้ผ้าที่หนาห่อน้ำแข็งเท่านั้น
- หลังครบ 24 ชั่วโมงแล้ว หลังจากนั้นต้องประคบร้อนต่ออีกประมาณ 3 ครั้ง ในแต่ละครั้งนาน 15 นาที หากดูแลอาการตามขั้นตอนดังกล่าว อาการฟกช้ำจะหายไปทันที ไม่เกิน 2 สัปดาห์
การปฐมพยาบาลแผลรถล้ม ลักษณะเป็นแผลถลอก ซึ่งเป็นอาการยอดนิยมพบเห็นได้บ่อยมาก ในกลุ่มของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ โดยแนวทางในการบรรเทาอาการ ดังนี้
- หากทำแผลเอง อันดับแรก คือ ต้องล้างมือให้สะอาด ป้องกันการติดเชื้อจากเชื้อโรคที่สะสมในมือ ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
- เริ่มต้นต้องนำน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ ล้างบริเวณปากแผลก่อน เพื่อจำกัดเศษดินต่าง ๆ ที่ปนมากับแผล ขั้นนี้ ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่นำมาล้างสะอาดที่สุด
- นำสำลีที่สะอาดใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดบริเวณรอบปากแผล ห้ามราดน้ำยาฆ่าเชื้อลงแผล หรือเช็ดที่แผลโดยตรง เพราะนอกจากจะมีอาการแสบแล้ว เสี่ยงต้อการติดเชื้อมากขึ้นด้วย
- ต่อมานำสำลีที่สะอาดใส่น้ำยาทาแผลสด แปะที่แผลแล้วปิดด้วยผ้าก๊อซอีกชั้นหนึ่ง ป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปที่แผลนั่นเอง
- ถ้าเริ่มมีอาการปวดแผลเกิดขึ้น สามารถทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าแผลบวมมากขึ้น หรือ เลือดไหลตลอด ไม่หยุด ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุต้องประเมินอาการตนเอง หากมีอาการรุนแรง ให้เข้ารับการรักษากับแพทย์โดยตรงจะดีที่สุด เพราะการที่รถล้มนั้น ไม่เพียงเกิดแค่ฟกช้ำหรือแผลถลอก บางรายมีอาการกระดูกหักหรือกล้ามเนื้อฉีกขาด และแนวทางในการรักษาโดยแพทย์ คือ
- ล้างทำความสะอาดที่แผล และประเมินอาการ
- ใช้การฉีดยาแก้ปวด สำหรับผู้ประสบอุบัติเหตุรุนแรง และเจ็บแผลมาก
- เย็บแผล หากแผลที่ได้รับเป็นการฉีดขาดที่รุนแรง และต้องตามผล นัดตัดไหมเป็นลำดับ
- การผ่าตัดจะเหมาะสำหรับเคสรุนแรงที่สุด เช่น เลือดออกในสมอง กระดูกหักภายใน เป็นต้น
- การรักษาในรูปแบบอื่น ๆ ตามวินิจฉัยของแพทย์
การดูแลรักษาตนเองหลังจากทำแผล
เมื่อทำแผลเป็นที่เรียบร้อย ภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราก็จะเริ่มทำงานในการรักษาตนเอง ดังนั้นก็มักจะเกิดอาการปวดตามมาได้ ให้ทานยาลดการปวดบรรเทาอาการ จากนั้นรอเวลาเพื่อให้แผลสมานกัน พร้อมใช้วิธีการดูแลตัวเองร่วมด้วย ดังนี้
- แผลที่เป็นแผลเปิดควรปิดปากแผลเสมอ ป้องกันเชื้อ และไม่ควรโดนน้ำ เพราะจะทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
- หากต้องทำแผลเองที่บ้าน ต้องล้างมือให้สะอาดที่สุด และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องเป็นของใหม่ ถ้าเป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ซ้ำ ต้องทำความสะอาดทันทีหลังใช้งานเรียบร้อยแล้ว
- ถ้าแผลเริ่มมีอาการดีขึ้นหรือแผลสมานกัน ก็จะเกิดเป็นสะเก็ดที่ปากแผลและส่งผลให้มีอาการคัน ทว่าไม่สมควรเกาหรือลอกสะเก็ดออกเด็ดขาด เพราะจะทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ยิ่งในผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดมา หรือยังอยู่ในช่วงที่ร่างกายต้องการพักฟื้นและต้องได้รับการบำรุงมากเป็นพิเศษ
- งดเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายแบบหักโหมไปสักระยะ จนกว่าแผลจะหายดี หากต้องการออกกำลังหาย ในช่วงที่แผลยังเจ็บอยู่ ให้ออกกำลังกายเบา ๆ ไปก่อน เพื่อไม่ให้การขยับร่างกายกระทบจนแผลอาจฉีกขาดได้
ถึงแผลจากรถล้มมีแนวทางในการรักษา ทว่าการเจ็บป่วย นอกจากเป็นการเสียสุขภาพร่างกายแล้ว ยังมีผลกระทบต่อจิตใจอีกด้วย ดังนั้นควรใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท มีสติเสมอ จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น