ลูทีน ลูทีนถือได้ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก โดยหลายท่านเชื่อว่าประโยชน์ของลูทีนจะช่วยบำรุงดวงตา และป้องกันโรคที่เกิดขึ้นกับตาได้ เช่น โรคต้อกระจกตา และโรคจอประสาทตา หรือแม้แต่ปัญหาทางสุขภาพด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน ส่วนใหญ่แล้วลูทีนจะพบมากในพืชผักผลไม้ และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับลูทีน สารต้านอนุมูลอิสระที่สร้างประโยชน์ให้แก่ร่างกายกันให้มากยิ่งขึ้นค่ะ
ลูทีน คืออะไร
ลูทีน (Lutein) คือสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ โดยจะพบในพืชผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น แครอท ข้าวโพด กีวี่ องุ่น บร็อคโคลี่ ส้ม แอปเปิ้ล รวมไปถึงผักที่มีใบเขียวบางชนิด ลูทีนจะช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี โดยจะพบลูทีนในปริมาณมากบริเวณจุดของดวงตา จึงทำให้ผู้ที่ชอบกินผักผลไม้ที่มีส่วนผสมของลูทีนจำนวนมาก ไม่พบปัญหาที่เกิดจากดวงตา และยังส่งผลไปถึงสุขภาพร่างกายด้านต่างๆ ที่ดีอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันลูทีนจึงถูกนำมาสกัดและผลิตเป็นอาหารเสริมบำรุงดวงตากันเป็นจำนวนมากนั่นเอง
ประโยชน์ของลูทีน มีอะไรบ้าง?
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าลูทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกายสูง จึงทำให้ผู้ที่กินนผักผลไม้ที่มีสารลูทีนนั้น มีสุขภาพที่ดี เพราะสารดังกล่าวมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพได้ดังต่อไปนี้
1.ช่วยบำรุงสายตา ลูทีนช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากดวงตาได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคต้อกระจกตา โรคเส้นประสาทตา ช่วยบำรุงสายตา จึงทำให้ผู้ที่กินผักผลไม้ที่มีสารลูทีนซึ่งเป็นสารจำพวกแคโรทีนอยด์ ไม่มีปัญหาในเรื่องของดวงตาหรือสายตาเลย ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาจอประสาทตาในระยะเริ่มแรก กินผักผลไม้ที่มีลูทีน เพราะจะช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดีเลยทีเดียว
2.ช่วยในเรื่องความจำ นอกจากลูทีนจะช่วยบำรุงสายตาได้แล้ว ในการวิจัยยังพบว่าสามารถช่วยในเรื่องความจำได้เพราะลูทีนเป็นสารที่มีวิตามินที่ช่วยบำรุงในเรื่องความทรงจำของผู้สูงอายุ และยังช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย
3.ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม เนื่องจากลูทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง เมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดีผู้ที่เป็นโรคมะเร็งอยู่แล้ว ก็จะไม่มีการลุกลามของเชื้อมะเร็งเกิดขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
4.ช่วยรักษาโรคหัวใจ หรือลดภาวะโรคหัวใจขาดเลือดได้
5.ช่วยป้องกันแสงแดดจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ทำลายดวงตาได้
6.ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณสวยงาม กระจ่างใส
กินลูทีนอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์มากที่สุด
ถึงแม้ว่าลูทีนจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าหากได้รับมากจนเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นเราควรที่จะรับประทานผักผลไม้ที่มีสารลูทีนในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งมีวิธีการรับประทานมาแนะนำดังต่อไปนี้
1.หากลูทีนที่เป็นรูปแบบของอาหารเสริมควรรับประทาน 7-15 มิลลิกรัมต่อวัน
2.หญิงที่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่มีลูทีน แต่สามารถรับประทานผักผลไม้ที่มีสารลูทีนได้
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มของโรค (Cystic Fibrosis) ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของลูทีนด้วยตนเอง เพราะผู้ที่เป็นโรคนี้ร่างกายจะดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ได้น้อย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
4.การรับประทานลูทีนในรูปแบบของผักผลไม้ ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 20 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจทำให้ผิวพรรณเหลืองได้ เนื่องจากได้รับลูทีนในปริมาณที่มากเกินไป
ลูทีนเป็นวิตามินและสารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพอย่างมาก ซึ่งลูทีนยังสามารถทำงานร่วมกับกรดไขมัน DHA ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการมองเห็นของเด็กทารกได้ด้วย เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่อยากบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่อยากมีปัญหาสุขภาพดวงตา ความจำ แนะนำให้กินอาหารที่มีลูทีนเป็นประจำ สังเกตจากผักผลไม้สีเหลืองส้มซึ่งเป็นแหล่งสารอาหารที่มีลูทีนสูง หรือหากไม่สะดวกอาจจะกินในรูปแบบอาหารเสริมได้ค่ะ